คลิปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะสลักผักผลไม้ ( ฟักทอง )

       PROFILE

นายดำรงศักดิ์ นิรันต์ อาชีพ เป็นผู้สืบทอดเผยแพร่ศิลปะการแกะสลักและเป็นอาจารย์

              สอนอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 16 ซอย 23 ล็อก 6 เปิดสอนวันเสาร์-อาทิตย์ 9.30 น.

                           

.........................................................................................................................

พิธีกร : สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราก็อยู่กับ อาจารย์ ดำรงศักดิ์ นิรันต์ ซึ่งท่านก็เป็นอาจารย์สอนแกะสลักอยู่ที่สวนจตุจักรและท่านก็มีผลงานต่างๆ มากมาย เรามาสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

พิธีกร : อาจารย์สามารถที่จะบอกประวัติความเป็นมาในการแกะสลักได้ไหมค่ะ 

อาจารย์ : ได้ๆ ประวัติที่เรามาสร้างเปิดสอนอยู่ที่จตุจักรเนี่ยเป็นการเผยแพร่อนุรักษ์ศิลปะการแกะสลัก ซึ่งได้ถ่ายทอดมาจากคุณพ่อ ตอนนี้ท่านก็ได้เสียไปแล้ว ท่านเหมือนกับเป็นคนสุดท้ายของรุ่นนั้นที่ว่าศึกษาการแกะสลัก ซึ่งเป็นมีดปลายแหลมไม่เหมือนกับที่ในวังเค้าสอนกันมามันคนละอย่างกัน ในวังจะเป็นพวกมีดคว้าน และด้ามแบบมันจะพลิกลำบากและนี่พ่อแกเห็นจากคนโบราณว่าเค้าใช้มีดแบบไหน สมัยก่อนนั้นจับมีการอย่างไร แล้วแกก็มานั่งคือสมัยนั้นไปขอเรียนกับอาจารย์ ก็เป็นเพื่อนกันแต่อายุมากกว่าหน่อย แล้วท่านก็มีความสามารถด้านแกะสลักก็ถ่ายทอดมาจากคุณพ่อเค้า การประพันธ์น่ะ ก็ไปขอเรียนคือพ่อเป็นคนรักศิลปะมาก พอเห็นงานแกะนี่มันพิษดารแกะแล้วล้วงลึกไปข้างในเนี่ย โอ้ยแล้วมันทำได้ยังไง แล้วเป็นดอกที่ทึ่งเนี่ยเป็นดอกประพันธ์ ก็ไปขอเรียนปรากฏว่าเค้าอาจารย์แกไม่สอนหรือว่าเค้าหวงวิชาก็ไม่รู้น่ะ จะเป็นยังนั้นก็ได้ ในเมื่อไม่สอนแกภูพักลักจำ นั่งดูนั่งจำวิธีจับมีดแบบไหนยังไงแกก็มาฝึก ฝึกแล้วก็มีดแก ตอนแรกแกก็มีมีดพับอยู่เล่มหนึ่ง ก็เอามีดพับมาเหลาให้มันแหลม แล้วแกก็ใช้แกะแต่นี้ว่ามีดพับมันจะแบนมันไม่เหมาะที่จะกลิ้งในมือ แกก็เลยเริ่มมาทำทีหลังตอนเป็นช่างแล้วมาพัฒนาอย่างด้ามกลมๆ เมื่อก่อนเป็นเหล็กตอนอยู๋ในกรมแล้วแกก็มาใช้ใบเลื่อนอะไรค่อยๆปรับปรุงพัฒนามาเรื่อย 

พิธีกร : อาจารย์มาเปิดร้านสอนนานหรือยังค่ะ                                                              

อาจารย์ : นี่ๆ ก็เหมือนมาบุกเบิกจตุจักรเลยนะจากที่เค้าย้ายจากสนามหลวงมา เราก็มาอยู่กับชมรมลุงขาวไขอาชีพก่อน คราวนั้นสมัยนั้นเค้าก็มากางเต็นท์ให้ลุงขาว แล้วก็เค้าก็ดำบรรดาพวกอาจารย์ที่มีความรู้อะไรต่างๆเนี่ยเอามารวมๆ ใครมีความรู้ก็มาสอนเหมือนวิริยะทาน ก็มาสอนไม่คิดค่าเรียนอะไรนะ ก็มาอยู่ชมรมแกเนี่ยก็อยู่จนกระทั่งค่อยๆปรับปรุง ดัดแปลง ค่อยๆมีหลังคา เป็นพลาสติก แล้วก็พัฒนามาจนเป็นหลังคากระเบื้องเป็นปัจจุบัน ตีแล้วก็ประมาณ 32 ปีแล้ว                                          

พิธีกร : อาจารย์ได้วางมาตรการเกี่ยวกับการสอนไว้อย่างไรบ้างค่ะ                              

อาจารย์ : คือเราจะสอนเนี่ยนะจากคนที่ว่าไม่เคยเป็นมาก่อนเนี่ยเรามีจุดหลักที่จะให้คนเป็นเร็วที่สุดว่าวิธีการจับมีดน่ะ แลละการเริ่มต้นของการใช้มีดอันนี้สำคัญ ถ้าเราจับมีดเป็นเราก็สามารถที่จะแกะสลักไปได้เร็ว คือต้องจับให้ถูกต้อง จับมีดก็เหมือนจับปากกาเขียนหนังสือ ก็จะเริ่มจากปลายปากการอย่างเงี่ย แล้วก็ค่อยๆมาฝึกการลงดอก มาศึกษาการลงกลีบดอกต่างๆ ไม่อันนี้จะไม่ช้า ถ้าคนจับมีดเร็วเนี่ย ถ้าคนเข้าใจนะภายใน 10 นาที ก็สามารถลงดอกได้เลย                                                                                              

พิธีกร : หากชาวต่างชาติมาเรียนอาจารย์สามารถบอกว่าเอกลักษณ์การแกะสลักมีเอกลักษณ์ยังไงบ้าง                                                      

อาจารย์ : คือตอนนี้นะ ต่างชาติที่มาเรียนจะเป็นคนญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นเนี่ยเค้าเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการแกะสลักแบบของไทยมากแล้วก็เมื่อก่อนมันมีคนไทยแต่ว่านับถืออิสลาม เค้าไปอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วก็เค้าได้แฟนเป็นตนญี่ปุ่นเค้าก็มีลูกศิษย์เปิดสอน แต่เค้าก็ไม่เป็นอะนะแต่ก็ก็ดึงพวกอาจารย์ที่ว่าใครแกสลักเป็นเค้าก็ดึงมาสอน ก็เกิดเป็นโรงเรียนขึ้น พอเค้ากลับมาก็มาเปิดสอนที่อยู่เมืองไทย แต่ของเราเนี่ยคือเราเปิดเป็นโรงเรียนเล็กๆ เป็นล็อกเล็กๆ 

พิธีกร : เสน่ห์ขงงานนี้คืออะไร                                                   

อาจารย์ : เสน่ห์ก็คือการใช้มีด คือว่ามีดเล่มเดียวสามารถจับพลิกพลิ้วเป็นลวดลายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้หรือสบู่ และออกมาอ่อนช้อยเป็นสิ่งที่ว่าไม่สามารถไปก็อบปี้ ปั้มออกมาได้นี่คือเสน่ห์ของงาน 

พิธีกร : ลายส่วนใหญ่ก็มาจากดอกไม้ธรรมชาติด้ายหรือป่าวค่ะ 

อาจารย์ : อ่าๆใช่ ก็มีแบบ รูปแบบที่เราอนุรักษ์ไว้แล้วก็หาจากธรรมชาติ ดอกไม้จากธรรมชาติดอกทานตะวัน ดอกดาวเรือง แล้วก็ลีลาวดี/ลั่นทมอะไรอย่างเงี่ย ดอกกล้วยไม้ 

พิธีกร : แล้วมีอุปสรรคหรือป่าวค่ะของแต่ล่ะคน

อาจารย์ : อุปสรรคนี้นะมันก็อยู่ที่ว่าแต่ละคนมันจะมีความรู้สึกว่าประการคือคือใจเค้ามีความสนใจไหม อยากจะเรียนจริงไหมตรงนี้ ถ้าใจเค้าพร้อมนะก็

พิธีกร : แล้วก็ผักผลไม้อะไรที่นิยมแกะกัน 

อาจารย์ : คือคนเรียนนี้ก็คือเราจะสอนจากฟักทอง มันจะง่าย เนื้อมันจะมีความนิ่มเหนียว แล้วก็มองเห็นลายชัด มันจะแข็งแต่เปลือก เพราะฉะนั้นการใช้ฝึกก็จะต้องเป็นฟักทอง          พิธีกร : ปัจจุบันเราเห็นศิลปะการแกะสลักผักผลไม้น้อยลงอาจารย์มีความคิดเห็นหรือว่าอยากจะแนะนำอะไรบ้างคะ                                                        

อาจารย์ : นี่แหละไอตรงนี้คือสำคัญมาก คืออยากให้หน่วยงานของรัฐมองเห็นคุณค่า ก็พึ่งจะมาจดเป็นทะเบียนเมื่อไม่นานนี่เอง การแกะสลักเนี่ยฟักทอง พวกผลไม้พึ่งมาลงทะเบียนนี่เอง ทั้งๆ มันมีมาตั้งนานนมแล้ว แต่ว่าหน่วยงานไม่ค่อยเห็นคุณค่า และอีกอย่างตอนนี้ก็คืออยากให้เค้ามองเห็นว่าการอนุรักษ์ของคน งานของโบราณของเก่าแก่จริงๆเนี่ย อยู่ตรงไหน เพราะเดี่ยวนี้มันก็มีแกะเกอะไปหมด ใครก็ตั้งตัวเป็นอาจารย์ เปิดทำตำราออกมาเยอะแยะนะ แต่ที่เนี่ยเบื้องลึกของงานแกะสลักมันหาไม่ได้แล้ว แล้วงานในวังเดี่ยวนี้เค้าจะว่าไปล้ำหน้าเค้า เราทำได้ละเอียดเนี่ย บางคนจับมีดไม่เป็นงานก็เลยออกมาหยาบ  ก็ตรงนี้ก็ติดขัดที่เค้ามามองค่าไม่ใช่มาอิจฉาก็อยากให้สืบทอดต่อไป และอยากให้เห็นคุณค่า พวกวัยรุ่น ให้มามอง เดี่ยวนี้เทคโนโลยีล้ำสมัยด้วย เดี่ยวนี้วัยรุ่นไทยไม่ค่อยมาเห็นคุณค่าตรงนี้นะ ก็นั่งอยู่ตรงนี้ก็น้อยคนที่จะมาดูตรงนี้ส่วนมากเข้าไปดูเสื้อผ้าเนี่ยก็เลยจะหมดไปแต่ญี่ปุ่นนี้เค้าบินมาเรียนเลยนะ เค้ามานั่งเรียนเค้าไม่บ่นว่าร้อน เค้าสนใจจะเรียน 

พิธีกร : ค่ะใครที่สนใจอยากจะเรียนแกสลักไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้หรือว่าสลู่ค่ะ ก็มาสอบถามโดยตรงกับอาจารย์ ดำรงศักดิ์ นิรันต์ ที่ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 16 ซอย 23 ล็อก 6 สำหรับวันนี้เราก็ขอขอบคุณอาจารย์มากนะคะ

                        

                                                                                                                                                                               

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                               PROFILE

                                               
                                                        MS KUNYAKAN  SIRILUK
                                              WORK @ NEW STAR BEACH RESORT
                                                     BIRTHDAY 24 NOVEMBER 1989

                                            ผู้ชื่นชอบและนำมาประกอบอาชีพเสริมในโรงแรม

พิธีกร       : เริ่มชื่นชอบหรือสนใจในการแกะสลักตั้งแต่เมื่อไหร                                                     

พี่กานต์    : ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ประถม มัธยม 

พิธีกร       : ถ้าเราจะแกะสลักเราต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 

พี่กานต์    : ขั้นแรกก็ต้องมีมีดแกะสลัก มีดแกสลักก็จะมีหลายราคา แต่ถ้าเราหาซื้อที่แบบว่า                   อย่างดี  สำหรับมืออาชีพเราก็ต้องสั่ง ซึ่งราคาก็สูงอยู่ แต่ถ้าหากเราจะเริ่มแกะ                       หรือฝึกหัดเราก็ สามารถซื้อตามร้านค้าทั่วไปได้ 

พิธีกร       : ถ้าคนทั่วไปที่จะมาแกะสลักเราต้องมีความชอบส่วนตัวหรือว่าเราต้องมีศิลปะ                     ด้วยหรือเปล่า 

พี่กานต์    : หนึ่งก็ต้องใจรักก่อนละก็ใจเย็น  เรื่องอื่นๆ เราสามารถฝึกฝนได้หากเรามีความ                      พร้องสองอย่างนี้ 

พิธีกร       : ทั่วไปตามโรงแรมมีการแกะสลัก ทำไมเขาถึงนิยมแกะกัน 

พี่กานต์    : มันเป็นเอกลักษณ์ของไทย จริงๆ แล้วเนี่ยก็อยู่ที่ประเทศไทย เราก็นำมาเสนอ                       เพื่อเป็นจุดดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติ 

พิธีกร      :  ชาวต่างชาติสนใจมากน้อยแค่ไหนค่ะ 

พี่กานต์    : สนใจมากๆ นะคะ เพราะว่าเชฟคนต่างประเทศก็มาเรียนแกะสลักกันถึงที่เมือง                     ไทย 

พิธีกร       : สุดท้ายอยากจะฝากอะไรกับคนที่สนใจศิลปะด้านการแกะสลักบ้างไหม                                ค่ะ                       

พี่กานต์     : สำหรับคนที่สนใจหรื่อชื่นชอบในการแกะสลักก็สามารถซื้อหนังสือมาอ่าน                         ก่อนได้ ตั้งแต่เบื้องต้น ไม่ว่าจะเริ่มแกะหัวใจ หรือว่าแกะแตงโม ผลไม้อื่นๆ ก็                       เริ่มจากดูภาพ ศึกษาขั้นพื้นฐานก่อน หรือสามารถดูในยูทูปก็ได้เช่นกัน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                                                                                                

Believe and Culture Carving "PUMPKIN" โดย Areerat Ketpaen อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า 4.0 International.